วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

รู้มั้ย อะไรคือตัวคร่าพลังเซ็กซ์

what's really killing your sex drive?
รู้มั้ย...อะไรคือตัวคร่าพลังเซ็กซ์


คุณปฏิเสธว่า"อย่าเพิ่งคืนนี้เลยค่ะที่รัก" เป็นครั้งที่10 ในเดือนนี้ ไม่นับข้ออ้างปวดหัวอีกนะ จะโทษใครดีละเนี่ย? คุณอาจแปลกใจในคำตอบ เพราะยาธรรมดาสามารถทำให้ฮอร์โมนคุณแปรปรวน และส่งผลถึงตัณหาของคุณได้ คริสติน เว็บเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซ็กซ์ และความสัมพันธ์ บอกเอาไว้เช่นนั้น แม้เรื่องแสนธรรมดาอย่างเช่น สิ่งที่คุณดูจากทีวีก็อาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ทางเพศได้เช่นกัน มาดูตัวการต่อไปนี้หน่อยเป็นไร.......
ยาคุมกำเนิด
ทำไม? เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้หญิงหลายยุคหลายสมัยปลอดภัยจาการตั้งครรภ์ การศึกษาจากวารสารการแพทย์พบว่า ยาคุมกำเนิดด้วยวิธีกินนั้นสามารถทำให้เกิดอาการหมดตัณหาระยะยาวหรือถาวรได้ ยาคุมชนิดกินนั้นทำงานด้วยการลดการผลิตเทสโทสเตอโรนในรังไข่ และยกระดับสารที่เรียกว่า"โกลบูลิน" ตัวเชื่อมฮอร์โมนเซ็กซ์ ซึ่งปิดกั้นผลกระทบของเทสโทสเตอโรน เนื่องจากเทสโทสเตอโรนครอบงำพลังเซ็กซ์ สิ่งนี้จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาได้

ตัวเพิ่มตัณหา ถ้าคิดว่าตัณหาคุณได้รับผลกระทบ ให้ลองยายี่ห้ออื่น ผลข้างเคียงของยาแต่ละชนิดแตกต่างกันไป หรือเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดเป็นวิธีอื่นไปเลยก็ได้นะ


เลี่ยงการทำงานบ้าน
ทำไม? การค้นคว้าพบว่าคนที่ทำความสะอาดเกินสัปดาห์ละ10 ชั่วโมง ต้องการเซ็กซ์บ่อยกว่าคนที่ไม่ทำ งานบ้านจัดเป็นการออกกำลังกาย คนที่ไม่ออกกำลังกายมีเปอร์เซ็นต์ไขมันในรางกายสูงกว่า ซึ่งหมายถึงเพิ่มระดับโกลบูลินตัวเชื่อมฮอร์โมนเซ็กซ์ที่ปิดกั้นเทสโทสเตอโร น ลดราความปรารถนาทางเซ็กซ์ลงไป

ตัวเพิ่มตัณหา ออกกำลังกาย อย่างเช่น ขัดถู ดูดฝุ่น เพราะทำให้เลือดไหลเวียนทั่วร่างกาย เพิ่มตัณหาได้ดีนักเชียว


ภาวะซึมเศร้า
ทำไม? แม้ระดับพลังเซ็กซ์ต่ำเป็นอาการภาวะซึมเศร้า การศึกษาจากโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยโคลัมเบียพบว่า คน 50% กินยาแก้ซึมเศร้า เช่นโปรแซคหรือซีโรแซท รายงานถึงอาการเซ็กซ์ถดถอย ภาวะซึมเศร้าเพิ่มระดับฮอร์โมนดีเซโรโทนินในสมอง แต่ขณะที่ดีเซโรโทนินช่วยให้อารมณ์คุณดีขึ้นแต่ก็ลดพลังเพศและทำให้ไม่บรรลุ จุดสุดยอด

ตัวเพิ่มตัณหา ถ้าคุณกินยาแก้ภาวะซึมเศร้าและสังเกตว่าตัณหาลด ให้คุยกับแพทย์เพื่อเปลี่ยนเป็นยาชนิดอื่นซึ่งอาจเป็นบูโปรพิออนที่ปรากฎว่า ช่วยฟื้นฟูตัณหาได้ แต่อย่ากินยาใดๆโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน


ยาแก้ปวด-โคดีอีน
ทำไม? เวลาปวดหัวคุณย่อมอยากหยิบยาแก้ปวดขึ้นมากำจัดอาการนี้ แต่การศึกษาเรื่องโคดีนที่กระทำในสหรัฐฯ พบว่าโคดีอีนสามารถลดตัณหาด้วยการลดระดับเทสโทสเตอโรนลง แม้ปริมาณโคดีอีนแค่เล็กน้อยก็ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกเซ็กซี่ของคุณ ใช้วันละ 30 มก.ได้อย่างปลอดภัยแต่ถ้ามากกว่านั้นอาจสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทางพลัง เพศได้

ตัวเพิ่มตัณหา บรรเทาปวดด้วยไอบูโปรเฟน พาราเซตตามอล หรือแอสไพริน หรืออีกทางเลือกคือไม่ใช้ยาใดๆเลย แค่เอาแผ่นแปะแก้ปวดมาแปะแทนก็ได้


ความปลื้มรายการทีวีไม่เข้าท่าของเขา
ทำไม? นักค้นคว้าที่โรงพยาบาลลอนดอนพบว่าผู้หญิงมักไม่ต้องการเซ็กซ์ ถ้าแฟนของเธอไม่กระตุ้น การค้นคว้านี้ยังพบว่าเวลาผู้ชายแสดงสมองอันปราดเปรื่องออกมาก็มักดูมี เสน่ห์มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นลืมเรื่องที่เขานอนดูรายการทีวีน้ำเน่าไปซะ แล้วฉกตัวเขามาขึ้นเตียงแทนดีกว่า

ตัวเพิ่มตัณหา ให้แฟนได้ออกกำลังกายสมองด้วยการดูรายการคำถามหรือเกมส์โชว์ที่ต้องใช้สมอง คิดด้วยกัน ยิ่งได้ใช้เวลาร่วมกันมากเท่าไหร่คุณจะมีเรื่องคุยกันมากขึ้นและรู้ว่าคุย กันบนเตียงก็ย่อมได้ผลดีเหมือนกัน

ทำอะไรได้บ้าง..หลังมีเซ็กซ์ที่ลืมป้องกัน

การมีเพศสัมพันธ์กันโดยที่ไม่ได้ป้องกัน หมายถึงไม่ได้มีการใช้ถุงยางอนามัย อาจทำให้หลายคู่เกิดความรู้สึกกังวลใจ โดยเฉพาะผู้หญิงอาจจะกังวลใจมากเพราะกลัวว่าตนเองจะท้อง ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น สิ่งที่พอจะช่วยป้องกันเรื่องการท้องได้ก็คือ



การกินยาคุมกำเนิดหลังร่วมเพศ หรือที่หลายคนมักจะรู้จักในชื่อ ยาคุมฉุกเฉิน หรือ ยาคุมหลังร่วม

มีเซ็กซ์ไม่ได้ป้องกัน, ยาคุม, ตั้งครรภ์, ถุงยางอนามัย, เพศสัมพันธ์, ยาคุมฉุกเฉิน, ยาคุมหลังร่วมวิธี การกินยาคุมฉุกเฉินนี้ จะต้องกินครั้งละ 2 เม็ด โดยเม็ดแรกต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ (ยิ่งกินเม็ดแรกเร็วเท่าไร ยิ่งได้ผลดี) แล้วให้กินเม็ดที่สองห่างจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง

ข้อควรระวัง!!
การกินยาคุมกำเนิดหลังร่วมเพศนี้ ควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นจริงๆ และเดือนหนึ่งไม่เกิน 4 เม็ด ไม่ ควรกินบ่อยๆ หรือกินเหมือนยาคุมกำเนิดทั่วไป เพราะการกินบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติได้ เช่น เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ คลื่นไส้อาเจียนในกรณีที่เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง


สังเกตรอบเดือน หากไม่มาภายใน 15 วันหลังจากมีเซ็กส์ ให้ทดสอบการตั้งครรภ์จากปัสสาวะ (ทำด้วยตัวเองได้ ด้วยการหาซื้อชุดทดสอบฯได้ที่ร้ายขายยาทั่วไป)

- ผลเป็นลบ (-) แสดงว่า "ไม่ท้อง" คุณกับแฟนอาจรู้สึก "โล่งใจ" แล้วจะป้องกันในครั้งต่อไปไหม?

- ผลเป็นบวก (+) แสดงว่า "ท้อง" แต่หากไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย หน้ามืด หรือเวียนศรีษะ ซึ่งมีอาการของคนท้อง ให้รอไปอีก 7 วัน แล้วตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง



มีเซ็กซ์ไม่ได้ป้องกัน, ยาคุม, ตั้งครรภ์, ถุงยางอนามัย, เพศสัมพันธ์, ยาคุมฉุกเฉิน, ยาคุมหลังร่วมเซ็กซ์ที่ไม่ป้องกัน คำว่า ป้องกัน นี้ต้องมองทั้งสองมุมคือ ป้องกันท้อง และป้องกันเอดส์ เราอาจมีวิธีจัดการที่หลากหลายเพื่อป้องกันการท้องได้ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีวิธีใดจะป้องกันการติดเชื้อเอดส์ได้นอกจากการใช้ถุง ยางอนามัย

ทางที่ดีและปลอดภัยควรใช้ ถุงยางอนามัย ทุกครั้ง
เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์และป้องกันเอดส์ ก่อนที่จะสายเกินไป

หมอเตือน ยาคุมฉุกเฉินอันตราย


นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันหลายๆ ครอบครัวมีแนวโน้มที่จะไม่ต้องการบุตรด้วยเหตุผลความไม่พร้อมจากสภาพสังคม เศรษฐกิจ โดยเฉพาะคู่สมรสที่ยังอยู่ในวัยรุ่น วัยทำงาน จึงจำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดที่ได้ผลดีอย่างสม่ำเสมอ วิธี ที่ง่ายและสะดวกในผู้ชายคือการใช้ถุงยางอนามัย นอกจากนี้ ถุงยางอนามัยยังจะช่วยให้มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคเอดส์ได้อีกด้วย และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ สำหรับผู้หญิงอาจใช้วิธีกินยาเม็ดคุมกำเนิดร่วมด้วย โดยใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่ในแต่ละแผง มียา 21 เม็ด หรือ 22 เม็ด หรือ 28 เม็ด โดยกินทุกวัน วันละ 1 เม็ด

นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในกรณีผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ ไม่ต้องการตั้งครรภ์ และไม่แน่ใจว่าตนเองเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ด้วยการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ซึ่งยาคุมกำเนิดชนิดนี้มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป



เป็น ชนิดฮอร์โมนเดี่ยว มีส่วนประกอบของโปรเจสโตเจนปริมาณสูง มีวิธีใช้ 2 แบบ แบบแรก ต้องกินให้ครบ 2 เม็ด ภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ หรือแบบที่สองเป็นแบบดั้งเดิม คือกินเม็ดแรกทันทีที่สะดวก แล้วกินเม็ดที่สอง 12 ชั่วโมงต่อมา ทั้งสองแบบจะให้ผลไม่ต่างกัน ยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้บ้างเพียงเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แต่ สิ่งที่พึงระวัง คือ ยาชนิดนี้เป็นยาที่ใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉิน ฮอร์โมนที่กินมีปริมาณสูง หญิงที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ จึงไม่ควรใช้ยานี้แทนยาเม็ดคุมกำเนิดแบบปกติ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้

“สิ่งที่จะเป็นเกราะป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์และลดการพึ่งพายา คุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน คือการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษาที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น เพราะที่ผ่านมาได้มีการศึกษาพบว่า วัยรุ่นสมัยนี้เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่อายุเฉลี่ย 15 ปี และมีแนวโน้มอายุของการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจะน้อยลงเรื่อย ๆ และในวัยรุ่นชายมากกว่าร้อยละ 90 มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ส่วนวัยรุ่นหญิงยอมรับแนวคิดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานกันมากขึ้น

อีกทั้งยังขาดความพร้อมทางวุฒิภาวะที่จะรับผิดชอบร่วมกัน ส่งผลให้การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่มักเป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้น การส่งเสริมให้ฝ่ายชายให้เกียรติฝ่ายหญิง และฝ่ายหญิงควรรักนวลสงวนตัวมากขึ้น จึงเป็นวิธีการที่จะช่วยแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรได้ดีอีกทาง หนึ่ง” นพ.ณรงค์ศักดิ์กล่าว

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites